4. พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พุทธศักราช 2477
มาตรา 5 อสังหาริมทรัพย์ซึ่งรัฐบาลต้องการเพื่อกิจการใดๆอันเป็นสาธารณูปโภค หรือเพื่อการเหมืองแร่นั้น เมื่อมิได้ตกลงในเรื่องการโอนไว้เป็นอย่างอื่น ท่านให้เวนคืนตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 6 เมื่อรัฐบาลได้ตกลงจะกระทำกิจการใดอันเกี่ยวแก่สาธารณูปโภค แต่ยังมิได้ทำการสำรวจที่ที่เจาะจงให้แน่นอนไซร้ จะได้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์ที่ดินในบริเวณที่ที่คิดว่าจะเวนคืนนั้นขึ้นฉบับหน่ึง
ในพระราชกฤษฎีกานั้นให้ระบุ
– ความประสงค์ที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์
– เจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์
– กำหนดเขตต์ที่ดินที่ต้องเวนคืน
ให้มีแผนที่หรือแผนผังประเมินเขตต์ที่ดินในบริเวณที่คิดว่าจะต้องเวนคืนและแสดงเขตต์ที่ดินที่อยู่ในบริเวณที่ประเมินนั้นเป็นรายๆติดไว้ท้ายพระราชกฤษฎีกานั้น แผนที่หรือแผนผังที่กล่าวมานี้ให้ถือว่าเป็นส่วนแห่งพระราชกฤษฎีกา
พระราชกฤษฎีกาเช่นว่านี้มีอายุสองปีหรือตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกาน้ัน แต่ต้องไม่เกินห้าปีแล้วแต่จะเห็นว่าจำเป็นเพื่อทำการสำรวจที่ดินที่เจาะจงต้องเวนคืนน้ัน
มาตรา 7 ภายในกำหนดอายุแห่งพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในมาตราก่อน เจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปกระทำกิจการใดๆในที่ดินซึ่งอยู่ภายในเขตต์ตามแผนที่เท่าที่เห็นว่าจำเป็นเพื่อการสำรวจ แต่ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ปกครองทรัพย์สินโดยชอบด้วยกฎหมายต้องได้รับคำบอกกล่าวถึงกิจการที่ต้องกระทำไม่น้อยกว่าสามวันก่อนเริ่มกระทำกิจการน้ัน และชอบที่จะได้รับค่าทดแทนสำหรับความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการที่กระทำนั้น
มาตรา 8 เมื่อได้กระทำการสำรวจที่ซึ่งต้องเวนคืนตลอดทั้งหมดหรือเฉพาะแต่ส่วนใดส่วนหนึ่งแล้ว ให้ออกพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์อีกฉบับหนึ่ง เพื่อให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์และให้ระบุที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นที่ต้องเวนคืนพร้อมทั้งนามเจ้าของหรือผู้ปกครองทรัพย์สินโดยชอบด้วยกฎหมาย
ให้มีแผนที่หรือแผนผังแสดงเขตต์ทรัพย์สินที่เวนคืนอย่างชัดเจนไว้ท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์และให้ถือว่าแผนที่หรือแผนผังน้ันเป็นส่วนหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติน้ัน
เขตที่ดินนั้นต้องปักหลักหมายเขตต์ไว้โดยชัดเจนก่อนที่จะออกพระราชบัญญัติ